พระพุทธเจ้าสอน แต่(เสือก)ไม่เชื่อ
หนังสือเล่มแรกที่จะช่วยเปิดกะโหลกให้รู้ว่า คุณเป็นชาวพุทธที่แท้จริง หรือนับถือพุทธแค่เพียงลมปาก เพราะเชื่อไปหมดทุกอย่าง…ยกเว้นพระพุทธเจ้า!
คุณเป็นอีกคนหนึ่งที่มีความเชื่อในเรื่องพวกนี้หรือเปล่า?
● เชี่อว่าหากหมั่นทำบุญ สะสมบุญไว้มากๆ อานิสงส์ผลบุญจะตามมาตอบแทนในอนาคตหรือในชาติหน้า
● เชื่อว่าจะได้บุญกุศลจากการสวดมนต์ ฟังพระสวดมนต์ สวดมนต์ข้ามปี หรือสวดภาณยักษ์
● เชื่อเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์ของวัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เกจิอาจารย์ พระพุทธรูป หรือเทพเจ้าต่างๆ
● เชื่อเรื่องหมอดู โหราศาสตร์ ฮวงจุ้ย ปีชง การดูฤกษ์ดูยาม ตลอดจนพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ทั้งหลาย
● เชื่อถือศรัทธาพระภิกษุที่ประกอบเดรัจฉานวิชา เช่น รดน้ำมนต์ ปลุกเสก ดูดวง เจิมรถ แก้กรรม ลงนะหน้าทอง
● เชื่ออะไรต่อมิอะไรอีกมากมายที่พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนไว้
หากใช่…หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้คุณตาสว่างได้!
สารบัญ
ทำบุญอย่างถูกต้องด้วยทาน ศีล ภาวนา
● แน่ใจหรือว่าทำบุญอย่างถูกวิธีแล้ว
● ปุญญกิริยาวัตถุสูตรในพระไตรปิฎก
● มอง “บุญ” ในมุมที่ถูกต้อง
สวดมนต์ทำไม…พระพุทธเจ้าไม่ได้สอน
● การสวดมนต์กับภาษาที่ใช้ครั้งพุทธกาล
● สมัยพุทธกาลมีการสวดมนต์หรือไม่
● “มนต์” ในศาสนาพุทธ ไม่ใช่เวทมนตร์คาถา
● เข้าใจการสวดมนต์อย่างถูกต้องด้วยปัญญา
ในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดเป็นมงคล
● “มงคล” มีความหมายว่าอย่างไร
● วัตถุมงคลกับความเชื่อของชาวพุทธ
● มงคลสูตรในพระไตรปิฎก
“สายมู” หรือที่แท้แค่ “สายมอ”
● คำว่า “สายมู” มาจากไหน
● ท่านพุทธทาสภิกขุสอนเรื่องไสยศาสตร์
● “ขันธ์ 5” ตัวอย่างความเชื่อที่ผิดเพี้ยน
● พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์
● ตัวอย่างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนไทยกราบไหว้บูชา
● น้ำสะอาดกับโคลนตม
เป็นชาวพุทธ อย่าบูชาเทพเจ้าศาสนาอื่น
● เรานับถือ “พุทธ” หรือศาสนาไหนกันแน่
● เทพเจ้านอกศาสนา…เครื่องมือทางการตลาดของวัดพุทธ
● นับถือหลายศาสนาก็เท่ากับไม่ได้นับถือศาสนาใดเลย
หมอดูเป็นใครทำไมต้องเชื่อ
● รากเหง้าของวิชาดูดวงดูหมอ
● อาชีพดูดวงและพยากรณ์ในพระไตรปิฎก
● โหราศาสตร์และการโคจรของดวงดาว
● พวกหมอดูไม่ได้มีญาณหยั่งรู้เหมือนพระพุทธเจ้า
อย่าเชื่อพระสงฆ์ที่ไม่เชื่อพระพุทธเจ้า
● จุดมุ่งหมายที่แท้จริงของการบวช
● “บัณเฑาะก์” ที่ห้ามบวชเป็นแบบไหน
● เดรัจฉานวิชา…ตัวปิดกั้นทางไปนิพพาน
● เดรัจฉานกถาก็เป็นข้อห้ามของภิกษุ
● ศีลพื้นฐานที่พระยังรักษากันไม่ได้
คำนำสำนักพิมพ์
สำนักพิมพ์ของเราจัดพิมพ์หนังสือแนวธรรมะออกเผยแพร่แล้วจำนวน 3 เล่มนับรวมเล่มนี้ด้วย ผลตอบรับที่ได้มีทั้งดอกไม้และก้อนอิฐ มีทั้งเสียงชื่นชมและวิพากษ์วิจารณ์ในทางไม่ดีนัก
บางคนไม่เข้าใจเจตนา ไม่เชื่อถือในตัวผู้เขียนเพราะไม่ใช่พระภิกษุมีชื่อเสียง หรือไม่เนื้อหาในหนังสือก็ไปขัดแย้งกับความเชื่อที่ฝังอยู่ในจิตใจตัวเองมานาน จึงส่งข้อความมาตำหนิติเตียน หรือถึงขั้นกล่าวหาว่าผู้เขียนบิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้าก็มี (ผู้อ่านบางคนอ้างว่าเนื้อหาหนังสือขัดแย้งกับคำสอนของพระสงฆ์ที่เป็นครูบาอาจารย์ของตัวเอง ซึ่งกรณีนี้คงยากจะถกเถียงหาข้อยุติ)
แต่สำหรับคนที่เข้าใจ อ่านแล้วคิดตาม อ่านแล้วรับรู้ได้ในเจตนาดีของเรา ก็ส่งเสียงชื่นชมมาให้เราพออิ่มสุขในใจได้ไม่น้อย
สำหรับหนังสือเล่มนี้ ผู้เขียนย้ำกับเราว่า เขียนโดยพยายามอ้างอิงจากเนื้อหาในพระไตรปิฎกให้มากที่สุด (ผู้เขียนอ้างอิงจากพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวงเป็นหลัก) เพื่อชี้ให้เห็นภาพชัดเจนว่า มีความเชื่ออะไรในสังคมไทยบ้าง ที่ไม่ถูกต้องหรือขัดแย้งกับคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
หากผู้รู้ท่านไหนบังเอิญมาอ่านหนังสือแล้วพบว่า มีเนื้อหาบางส่วนบางตอนคลาดเคลื่อนไปจากหลักธรรม หรือแม้แต่การตีความพระไตรปิฎกบางประเด็นไม่น่าจะถูกต้อง ทางสำนักพิมพ์ยินดีรับฟังความคิดเห็น และพร้อมปรับปรุงเนื้อหาหนังสือให้ดีขึ้นในการจัดพิมพ์ครั้งต่อไป
และแม้ว่าความคิดเห็นในเชิงลบ (โดยเฉพาะความเห็นที่ไม่ยึดโยงจากข้อธรรมที่ปรากฎในพระไตรปิฎก) จะทำให้เรารู้สึกเหนื่อยท้ออยู่บ้าง ในขณะที่ความเห็นในเชิงบวก ช่วยให้เรามีพลังในการสร้างสรรค์หนังสือต่อไป…
แต่กระนั้น หากเป็นความคิดเห็นอย่างสุจริตซึ่งเกิดจากความปรารถดี สำนักพิมพ์ของเราก็ยินดีน้อมรับทุกความคิดเห็นทั้งบวกและลบเช่นเคย
เพราะทุก ๆ ความคิดเห็นของนักอ่าน มีคุณค่าสำหรับคนทำหนังสืออย่างเราเสมอ
คำนำผู้เขียน
หนังสือ “พระพุทธเจ้าสอน แต่(เสือก)ไม่เชื่อ” ในมือคุณเล่มนี้ เป็นหนังสือธรรมะเล่มที่ 3 แล้วที่ผู้เขียนพยายามเขียนขึ้นมา ระยะเวลาจากเล่มแรกมาจนถึงเล่มนี้ รวมแล้วกินเวลายาวนานหลายปีทีเดียว เพราะแต่ละเล่มต้องผ่านการคิด ผ่านการศึกษาพระธรรมคำสอน และผ่านการลงมือเขียนทีละตัวอักษร ซึ่งไม่ใช่งานง่ายเอาเสียเลย
ผู้เขียนไม่ใช่พระภิกษุ ไม่ใช่ผู้บรรลุธรรมใด ๆ ไม่ได้แตกฉานหรือชาญฉลาดไปกว่าใคร เป็นแต่เพียงคนธรรมดาที่สนใจศึกษาพระธรรมคำสอน พยายามฝึกปฏิบัติตามแนวทางของศาสนาเท่าที่กำลังสติปัญญาและเวลาชีวิตจะเอื้ออำนวย
และการเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา ก็ไม่ได้มีจุดประสงค์ใดมากไปกว่า อยากเห็นพระพุทธศาสนาไม่เสื่อมถอยมัวหมองยิ่งไปกว่านี้
ทุกวันนี้คล้ายกับว่าเรานับถือศาสนาพุทธกันเพียงแต่ปาก ส่วนพฤติกรรมค่อย ๆ ถอยห่างจากแก่นแท้ของความเป็นพุทธออกไปทุกที เราเชื่อและทำในหลายสิ่งหลายอย่างโดยไม่เคยสนใจศึกษาตรวจสอบว่า นั่นเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือไม่
ฆราวาสที่ได้ชื่อว่าเป็นพุทธศาสนิกชนมากมาย มีความเชื่อโอนเอียงไปในทางขัดแย้งกับพระธรรมคำสอน หลายคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพระพุทธเจ้าสอนไว้อย่างไร หรือบางคนก็รู้ แต่ไม่เชื่อพระพุทธเจ้าอยู่ดี
พระภิกษุนับไม่ถ้วนในยุคนี้ก็เหมือนกับบวชพระเป็นอาชีพ มีผ้าไตรจีวรเป็นเครื่องแบบ กินฟรีอยู่ฟรี มีหน้าที่เพียงแค่ออกรับกิจนิมนต์ ถือศีลครบบ้างไม่ครบบ้าง เรื่องจะคิดหวังถึงขั้นนิพพานเป็นไม่ต้องพูดถึง
อ่านหนังสือเล่มนี้จบแล้ว หากคุณรู้สึกไม่พอใจ ผู้เขียนต้องขออภัยด้วย แต่หากมีคุณผู้อ่านบางคนอ่านแล้วฉุกคิดขึ้นมาได้บ้างว่า ความเชื่อบางอย่างของตัวเองขัดแย้งกับสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน และคิดว่าควรปรับเปลี่ยนความเชื่อนั้นให้ถูกต้อง ผู้เขียนคงดีใจและภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง
ตัวอย่างหนังสือ