นิทานพระราชา
“นิทานพระราชา” (ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 | พิมพ์ครั้งแรกในชื่อ “พระราชาไม่มีวันตาย”) รวมเรื่องสั้นแนว “เสียดเย้ย-เหนือจริง” การันตีคุณภาพด้วยรอบสุดท้ายรางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ผลงานเขียนของ “อุเทน พรมแดง” นักเขียนรางวัลชนะเลิศเซเว่นบุ๊คอวอร์ด, รางวัลหนังสือดีเด่น สพฐ., รางวัลชนะเลิศพานแว่นฟ้า และอื่นๆ รวมกว่า 30 รางวัลระดับชาติ!
สารบัญ
เพื่อนสนิทของเขาคลับคล้ายจะกลายร่างเป็นหมาในไปเสียแล้ว
● สหายหมาใน
นารีรัตน์คลอดทารกออกมาสามคน แต่ดูเหมือนไม่ใช่แฝดสามอย่างที่ควรเป็น
● ทารกสามคนในครรภ์ของนารีรัตน์
เรื่องยุ่งยากเกิดขึ้นตามมาเมื่อลูกหมาที่อรดาเลี้ยงไว้กลายเป็นเด็กชายตัวน้อย
● สรณสุนัข
สามีของดวงใจทุกคนล้วนเลี้ยงนกเขาไว้ในกรง และพ่อก็ชอบแอบมาเล่นพวกมัน
● เหตุขัดแย้งในครอบครัวอันเกี่ยวเนื่องด้วยนก
ถูกลอบทำร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า ทว่าไม่อาจหยุดหัวใจความเป็นครูของมานีได้
● ครูคนใหม่แห่งสามจังหวัดชายแดน
เฒ่าแสแลเห็นเทวดาเหินลอยอยู่บนฟ้ากับสองตาตัวเอง
● ชายเฒ่าผู้แลเห็นเทวดา
บุญเติมไม่ได้ตัดหัวของหญิงสาวกับหัวของตุ๊กตาหมีแล้วเอามาต่อสลับกัน แต่ไม่มีใครเชื่อเขา
● หลักฐานในคดีสลับหัว
แม้ตายกลายเป็นผีไปแล้ว อาโกยังคงซุ่มซ่ามเซ่อซ่าจนถูกมนุษย์จับตัวได้
● ผีตัวแรกในประวัติศาสตร์ที่ถูกจับได้
หลังจากหมาถูกรถชน มันก็คิด พูด และตั้งคำถามกับชีวิตได้อย่างมนุษย์
● หลังจากนักคิดขับรถชนหมา
วัตถุมงคลชิ้นเดียวเปลี่ยนชีวิตขอทานให้กลายเป็นมหาเศรษฐีระดับโลก
● ซูเปอร์อัลตร้าอภิมหาวัตถุมงคล
ผู้คนกำลังเดินทางมุ่งหน้าไปสู่ดินแดนตะวันตก โดยไม่สนใจว่าต้นไม้สีขาวจะเหี่ยวเฉาลง
● การอพยพสู่ดินแดนตะวันตก
แม่เล่าเรื่องราวมหัศจรรย์ของพระราชาให้ลูกสาวตัวน้อยฟัง เด็กหญิงเชื่อว่ามันเป็นแค่นิทาน
● นิทานพระราชา
คำนำสำนักพิมพ์
ว่ากันว่าภาระหน้าที่ของคนเป็นนักเขียนคือการสะท้อนภาพความจริงของสังคมรอบข้างออกมา ไม่ว่าภาพความจริงเหล่านั้นจะน่ารื่นรมย์ แสนเจ็บปวด หรือชวนกระอักกระอ่วนใจอย่างไรก็ตาม
ในมุมนี้ งานวรรณกรรมจึงทําหน้าที่คล้ายกระจกเงา สะท้อนภาพเคลื่อนไหวของสังคมกลับไปสู่ทุกคู่สายตาของผู้คนในสังคมเอง เพื่อให้ผู้คนได้แลเห็น ฉุกคิด ใคร่ครวญถึงอุบัติการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งที่เกิดกับตัวเองหรือเกิดกับคนอื่น ๆ ไกลตัวออกไป
ปรากฏการณ์ซึ่งเผยตัวขึ้นในโลกยุคไซเบอร์หลาย ๆ ปรากฏการณ์เป็นเรื่องน่าห่วงกังวล ทั้งปรากฏการณ์ในเชิงปัจเจก ปรากฏการณ์เชิงสังคม ปรากฏการณ์เชิงระบบความคิดความเชื่อ ปรากฏการณ์เชิงวัฒนธรรม และปรากฏการณ์ในลักษณะอื่น ๆ
ในฐานะคนทั่วไป…ปรากฏการณ์เหล่านี้ก่อเกิดนาฏกรรมหลากหลายรูปแบบที่ควรเฝ้ามองดู
ในฐานะผู้ถ่ายทอดเรื่องราว…ปรากฏการณ์เดียวกันนี้ควรอย่างยิ่งจะหยิบยกมาบอกเล่า
มีเรื่องราวทั้งด้านบวกและลบนับไม่ถ้วนรอคอยให้ถ่ายทอดผ่านตัวหนังสือ แต่ด้วยความเป็นเจ้าของเรื่องเล่า ดูเหมือนผู้เขียนได้เลือกเรื่องราวในทางลบมาแสดงสะท้อนออกไป อาจด้วยความเชื่อที่ว่า มุมลบสีดําน่าจะมีพลังช่วยผลักดันสังคมไปสู่จุดที่ดีงามได้มากกว่ามุมบวก
ปัญหาน่าขบคิดอย่างหนึ่งของนักเขียนคือ จะเล่าเรื่องราวทั้งหมดทั้งมวลนั้นอย่างไร เล่าชนิดสมจริงสมจัง เหตุการณ์เกิดขึ้นทํานองไหนก็ร่ายเล่าไปทํานองนั้น หรือเล่าให้พิสดารวกวนกว่า ใส่สัญลักษณ์และภาพเหนือจริงลงไปแทน
กลวิธีอย่างหลังถูกเลือกนํามาใช้ในหนังสือเล่มนี้!
เรื่องเล่าในรวมเรื่องสั้นเล่มนี้จงใจบอกเล่านาฏกรรมในสังคมอย่างที่กล่าวมาแล้ว ทว่าบอกเล่าในแนวเสียดเย้ย (Satire) และเหนือจริง (Surrealism) ซึ่งในบางมุมอาจทําหน้าที่สะท้อนความจริงได้ถึงแก่นกว่า กระทบความรู้สึกได้มากกว่า และอาจทะลุทะลวงเข้าถึงหัวใจผู้คนได้มากกว่าอีกด้วย
กระจกเงาบานนี้จึงไม่ใช่กระจกผิวเรียบ สะท้อนภาพตรงหน้าออกมาอย่างตรงไปตรงมา หากแต่เป็นกระจกเงาบานบิดเบี้ยว นอกจากกลับภาพจากซ้ายเป็นขวาแล้ว ยังจับภาพความจริงตรงหน้าบิดม้วนพลิกแพลง จนภาพที่ได้พิลึกพิลั่นเกินคนทั่วไปจินตนาการถึง
แต่ลองจ้องมองให้ดีเถอะ บางทีกระจกเงาบิดเบี้ยวบานนี้อาจสะท้อนภาพความจริงได้แจ่มชัดจนน่ากลัว!
คำนำผู้เขียน
เป็นห้วงเวลายาวนานไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของชีวิต ผมเพียรเฝ้าเล่าเรื่องราวแห่งโลกความฝัน ทรุดนั่งสงบนิ่งท่ามกลางพื้นที่โล่งกว้าง เหลือบสายตามองดูผู้คนเคลื่อนไหวผ่านไปมา รวบรวมจินตนาการครั้งสุดท้าย แล้วเปล่งบางถ้อยคําอันประกอบกันเป็นเรื่องเล่าแว่วดังออกไป…
บางครั้งมีหลายคนเดินมาหยุดยืนต่อหน้า ตัดสินใจย่อตัวลงนั่งนิ่งหยุดฟังเรื่องราวเหล่านั้น บางหนหาคนสนใจฟังเรื่องเล่าได้น้อยเต็มที หลายคนแค่หันมองด้วยหางตา แล้วผละจากไปไกลแสนไกล ซ้ำร้ายยังมีใครบางคนถ่มถุยใส่ทั้งยังไม่ได้ฟังเรื่องเล่าจากปากผมอย่างละเอียดถี่ถ้วน
ผมปรารถนาเล่าเรื่องแห่งโลกความฝัน หัวใจหลุดลอยอยู่ในโลกใบนั้น ทว่าร่างกายยังขยับเขยื้อนอยู่ในโลกแห่งความจริง หิวอิ่มยังเป็นสัมผัสรับรู้แจ่มชัดในโลกจริงใบนี้ การฝืนเล่าแค่เพียงเรื่องราวในโลกแห่งความฝันทําให้ชีวิตอ่อนแอ แห้งแล้งขาดไร้ พิสูจน์กับตัวเองจนตระหนักแน่แก่ใจแล้ว ผมจึงตัดสินใจลองทําสิ่งใหม่ ๆ…
ผมลองเล่าเรื่องราวแห่งโลกความจริงบ้าง!
สูญเสียเวลาไปไม่น้อยกับการเล่าเรื่องแห่งโลกความจริง แลกกับการได้เห็นผู้คนเข้ามารุมล้อมฟังเรื่องราวหนาตา เสียงชื่นชมก้องดัง คําหมิ่นแคลนแว่วเข้าหูน้อยยิ่งกว่าน้อย สิ่งตอบแทนได้มาคือชีวิตที่แข็งแรง ชุ่มฉ่ำอิ่มชื่น
ห้วงยามเหล่านั้นมีผลให้โลกความฝันใบเดิมหดแคบลงบ้าง ลีบฝ่อลงบ้าง หากแต่ยังไม่เคยสูญหายไปไหน ยังคงเฝ้ามองดูผมอยู่เงียบ ๆ ภายในตัวตนของผมเอง
มุมานะเล่าเรื่องแห่งโลกความจริงวันแล้ววันเล่าจนผมแข็งแรงมั่นคงขึ้นบ้าง วันนี้ผมมีแรงกําลังพอจะบอกกับใคร ๆ อีกครั้งว่า ผมปรารถนาบอกเล่าเรื่องราวแห่งโลกความฝันครั้งใหม่แล้ว
ความสุขอิ่มเต็มอยู่ข้างใน จินตนาการโลดแล่นไร้กําแพงกั้น ผมผลิยิ้มลึกล้ำ ทรุดนั่งลงกลางพื้นที่กว้างโล่งของโลกเรื่องเล่า สูดลมหายใจเข้ายาวลึก แล้วค่อย ๆ เริ่มเล่าเรื่องแห่งโลกความฝันเรื่องใหม่ของผม
โลกความจริงหดหายไป โลกความฝันขยายใหญ่จนไม่อาจจินตนาการถึงขอบเขตของมัน…
จะมีสักกี่คนสนใจนั่งฟังเรื่องเล่า…ผมไม่รู้ รู้แต่เพียงว่าขณะเปล่งบางถ้อยคําอันสอดร้อยเป็นเรื่องเล่า คนเล่าเรื่องคนนี้รู้สึกอิ่มสุขในใจมากมายเกินประมาณทีเดียว
ตัวอย่างหนังสือ