เจ้าปลาสายรุ้ง
“อดีตกับปัจจุบัน มืดดำกับสีสัน และคนกับปลา”
เจ้าปลาสายรุ้ง – นวนิยายเรื่องใหม่ล่าสุดของ “วรรณมันตา” (นามปากกาของ “อุเทน พรมแดง”) นักเขียนเจ้าของกว่า 30 รางวัลทางวรรณกรรมระดับชาติ
เรื่องราวเล็กๆ ทว่าทรงพลัง เรียบง่ายทว่าลุ่มลึก อ่านแล้วดีต่อใจจนไม่อยากให้นักอ่านคนไหนพลาดเลยจริงๆ
สารบัญ
● ภาคหนึ่ง
แถวนี้มีหัวขโมย
ระบุตัวผู้ต้องสงสัย
การงานในความเงียบ
ไปส่งลูกสาว
เด็กชายตัวดำคนนั้น
● ภาคสอง
เพื่อนเกลอในวันเก่า
นักช้อนปลากัดมืออาชีพ
นักสู้เลือดลูกทุ่ง
เจ้ายักษ์ใหญ่สายพันธุ์ดุ
ลองเพาะปลากัดดูสักตั้ง
ล้มเหลวไม่ล้มเลิก
เหล่าลูกปลาตัวน้อย ๆ
สังกะสีลูกผสม
● ภาคสาม
หัวขโมยยอมจำนน
ปลากัดแฟนซีคู่แรก
จากทุ่งนาสู่ปลาแฟนซี
ฝากตัวเป็นศิษย์
พ่อมืดของหมอก
การเดินทางของปลาแสนสวย
สีสันและสายรุ้ง
● ภาคสี่
ปล่อยปลากัดลงรัดกัน
อุปสรรคขวากหนาม
เหล่าศัตรูตัวร้าย
ฟักไข่อาร์ทีเมีย
ลูกโค่ยกาแล็กซี
พายุหมุนในกะละมัง
คัดปลาขึ้นฟอร์ม
● ภาคห้า
เด็กชายผู้โดดเดี่ยว
เพื่อนใหม่ตอนประถมหก
เสียงร้องของมะลิ
ช้อนปลากัดครั้งสุดท้าย
เพื่อนที่ดีที่สุด
ต่างเส้นทางห่างหาย
● ภาคหก
มีเด็กนักเรียนต่อยกัน
เจรจาหย่าศึก
หญิงสาวผู้มีลักยิ้ม
แม่ปลาไม่เลี้ยงลูก
ปู่ไม่ได้ไปรับหลาน
เหตุวิวาทอีกฟากฝั่งคลอง
หายไปกับสายน้ำ
● ภาคเจ็ด
รายได้เสริมของครอบครัวเล็ก ๆ
รอยหมองในแววตา
ยังมีไอ้ทุ่งในหนองน้ำ
พวกปลาคัดทิ้ง
ผู้อยู่รอด
เจ้าปลาสายรุ้ง
คำนำสำนักพิมพ์
ไม่ว่าจะเป็นนักอ่านซึ่งยังเป็นเยาวชน หรือโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ตาม หากให้เลือกอ่านระหว่างนวนิยายที่เกี่ยวกับเทพ แม่มด หุ่นยนต์ มนุษย์ต่างดาว ซอมบี้ หรือปลากัด เดาได้ไม่ยากว่านวนิยายเกี่ยวกับปลากัดคงถูกเลือกหยิบขึ้นมาอ่านเป็นเล่มหลังสุด
แค่ได้ยินว่ามีนวนิยายสักเล่มพูดถึงการเลี้ยงปลากัด ก็นึกไม่ออกแล้วว่าจะมีอะไรน่าสนใจตรงไหน คงเป็นเรื่องราวน่าเบื่อหน่าย ไร้รสชาติ หาความสนุกตื่นเต้นไม่ได้
แต่หนังสือเล่มนี้ จะทำให้รู้ว่าคุณคิดผิด!
นี่คือนวนิยายที่เยาวชนหรือผู้ใหญ่ก็อ่านได้และควรอ่าน เป็นหนังสืออีกเล่มที่เราจัดพิมพ์ด้วยความสุข ความภาคภูมิใจ ลองเปิดใจอ่านนวนิยายที่เรียบง่ายทว่าลึกซึ้งงดงามเล่มนี้ดู เราเชื่อว่าเรื่องราวในหนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณประทับใจ…
และคุณอาจเจอหนังสือโปรดเล่มใหม่เข้าแล้ว
คำนำผู้เขียน
นับจากเริ่มต้นเกิดไอเดียของเรื่องขึ้นในหัว จนถึงเคาะแป้นคีย์บอร์ดเพื่อพิมพ์ตัวหนังสือสุดท้ายของเล่ม ผมใช้เวลาสร้างสรรค์นวนิยายเรื่องนี้ราวสามปี…
สองปีกับอีกสิบเอ็ดเดือนครึ่ง…ใช้ไปกับการครุ่นคิด
และอีกประมาณครึ่งเดือน…ในการลงมือเขียน
เป็นความทรมานร้ายกาจอย่างหนึ่ง ที่มีเรื่องราวและตัวละครผุบ ๆ โผล่ ๆ อยู่ในหัว คล้ายเล่นเอาเถิดเจ้าล่อไม่ยอมให้จับต้องหรือมองเห็นชัด เรื่องราวและตัวละครเหล่านั้นพร่าเลือน เลิกนึกถึงก็เร้นหาย ครั้นกลับไปขบคิดใหม่ก็แจ่มชัดขึ้นบ้าง ทว่าไม่ชัดเจนพอจะเขียนออกมาได้ตลอดรอดฝั่ง
กระทั่งผ่านมานานราวสามปี เรื่องราวและตัวละครในหัวจึงแจ่มกระจ่างพอจะเริ่มต้นเล่าได้ ยิ่งลงมือเขียน ทุกรายละเอียดยิ่งแจ่มชัดมากขึ้นด้วยตัวของมันเอง ถึงจุดหนึ่งคล้ายกับว่าผมไม่ต้องใช้สมองในการกำหนดโครงเรื่องและความเป็นไปของเหตุการณ์ในเรื่องอีกแล้ว…
ตัวละครทั้งหลายเหมือนมีชีวิตขึ้นมา พวกเขาส่งเสียงบอกกับคนเขียนอย่างผมว่า เรื่องราวชีวิตของพวกเขาเป็นมาเป็นไปอย่างไร มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง และเรื่องทั้งหมดจะดำเนินไปสู่ทิศทางไหนอย่างไร
ผมเขียนนวนิยายเรื่องนี้อย่างมีความสุขเหลือล้น จมอยู่กับเรื่องราวและตัวละคร ไม่อยากหยุดเขียน ไม่อยากให้เรื่องเล่าจบลง แม้เหน็ดเหนื่อยหมดเรี่ยวแรงทุกครั้งที่ปิดคอมพิวเตอร์ลง ทว่าความอิ่มสุขจากการได้บอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้ยังอ้อยอิ่งอยู่ในใจตลอดเวลา
ได้แต่หวังว่า ความสุขและความมุ่งมั่นตั้งใจที่แฝงฝังอยู่ในทุกตัวอักษรของหนังสือเล่มนี้ จะส่งผ่านไปถึงหัวใจของคุณผู้อ่านได้บ้าง…
ตัวอย่างหนังสือ