แค่อยากให้น้องไม่ต้องร้องไห้
“แค่อยากให้น้องไม่ต้องร้องไห้” นวนิยายขนาดสั้นทรงพลังว่าด้วยปัญหาการทารุณกรรมในเด็ก มาพร้อมกลวิธีการเล่าเรื่องที่จะทำให้คุณต้องอึ้งและมีน้ำตาในตอนจบ! ผลงานใหม่ล่าสุดของนักเขียนเจ้าของกว่า 30 รางวัลทางวรรณกรรมระดับชาติ
สารบัญ
● ครั้งแรกที่พบน้อง
● พ่อเก่าไปพ่อใหม่มา
● คนเดียวในสนามเด็กเล่น
● รอยแผลไหม้พอง
● มีคนมาเก็บค่าเช่า
● ขี่จักรยานไปตกปลา
● หมาจรจอมเกเร
● ของขลังของหลวงพ่อ
● ย้ายที่ซุกหัวนอน
● ไปโรงเรียนกับน้อง
● ผู้ชายแปลกหน้ามากับพ่อ
● คุณครูมาตามน้อง
● ย่าโผล่มาแล้วหายไป
● ดูแม่เล่นเป่าปี่
● ชายในชุดสีกากี
● กลืนกินสิ่งปฏิกูล
● เหตุร้ายไม่สลักสำคัญ
● เลือดไหลจากหว่างขา
● น้องไม่ร้องไห้แล้ว
● ครั้งแรกที่พบน้อง (คนเก่า)
คำนำสำนักพิมพ์
ว่ากันว่านวนิยายที่ดีต้องมีเส้นเรื่องซึ่งดำเนินจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ตัวละครในเรื่องต้องมีพัฒนาการไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ไม่เช่นนั้นนวนิยายเรื่องนั้นก็ไม่อาจอิ่มเต็มสมบูรณ์ในความเป็นวรรณกรรมได้
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง นวนิยายขนาดไม่ยาวนักเล่มนี้ คงไม่อาจเป็นนวนิยายที่ดีได้
นั่นเพราะนวนิยายเรื่องนี้แทบไม่มีเรื่องราวหรือเหตุการณ์ที่เคลื่อนไหวไปข้างหน้าเอาเสียเลย ตัวละครหลักช่างไร้พัฒนาการ เอาแต่ย่ำซ้ำอยู่กับความทุกข์ทนทรมาน ความเจ็บปวด เสียงร่ำไห้ คราบน้ำตา และหยาดเลือดรินไหล
นอกจากดิ่งจมอยู่กับความหดหู่หม่นหมองแล้ว นวนิยายเรื่องนี้ดูจะไม่ให้อะไรกับคนอ่านนอกเหนือไปจากนั้น
อย่างไรก็ตาม หากคุณเผลอไผลไปกับการเล่าเรื่องอย่างเนิบเนือยโดยไม่ใส่ใจสังเกตสังการายละเอียดของเรื่องเล่าให้ดี พอถึงตอนจบของเรื่อง คุณอาจรู้สึกเหมือนถูกต่อยโครมเข้าที่ปลายคางจนหงายท้องตึงไม่รู้ตัว
เอาเป็นว่า…เราเตือนคุณแล้ว!
คำนำผู้เขียน
ตามประสาคนมีลูก ข่าวเหตุการณ์เกี่ยวกับเด็กถูกทารุณกรรมสร้างความเศร้าสะเทือนใจให้ผมได้เสมอ บางข่าวทำเอาจิตตก หดหู่จนน้ำตาคลอ เรื่องเศร้าที่เกิดขึ้นกับเด็ก ๆ มักน่าเศร้ากว่าที่เกิดขึ้นกับผู้ใหญ่เป็นร้อยเป็นพันเท่า
ในฐานะนักเขียน ภาระหน้าที่ซึ่งผมพอจะทำได้ดีที่สุด คงหนีไม่พ้นการบอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้ออกมาเป็นงานวรรณกรรมสักชิ้น ด้วยมุมมองและวิธีการของตัวเอง
ผมเขียนนวนิยายสั้น ๆ เรื่องนี้ด้วยความทุกข์ทรมานอยู่ไม่น้อย ใช้เวลาเขียนยาวนานกว่านวนิยายเรื่องอื่นที่มีความยาวมากกว่าเป็นสองสามเท่า ทั้งยากในการเค้นคิดเหตุการณ์แยกย่อยในเรื่อง และยากในการบรรยายภาพทั้งหมดออกมาให้เจ็บปวดทว่ายังคงความงดงามอยู่ในที
ตอนเขียนร่างแรกจบลง ผมไม่รู้สึกว่าเรื่องเล่าเรื่องนี้มีพลังอะไรนัก ทว่าขณะอ่านทวนและแก้ไขซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมพบว่านวนิยายเรื่องนี้ดึงดูดให้แม้แต่คนเขียนเองยังอยากอ่านอย่างต่อเนื่องชนิดรวดเดียวจบ และทั้งที่ผมเป็นคนออกแบบวิธีการจบเช่นนั้นไว้เอง เมื่ออ่านถึงตอนจบ…ผมยังอดน้ำตาไหลออกมาไม่ได้
ได้แต่หวังว่าหนังสือเล่มเล็ก ๆ เล่มนี้ จะมีส่วนช่วยให้ปัญหาเด็กถูกทารุณกรรมในสังคมลดน้อยลงบ้าง เพราะเด็กน้อยผู้โชคร้ายอย่างในนวนิยายเรื่องนี้ ควรมีชีวิตอยู่จริงแค่เพียงในโลกของเรื่องแต่งเท่านั้น
ตัวอย่างหนังสือ