99 เรื่องพุทธที่เราเข้าใจผิด
“99 เรื่องพุทธที่เราเข้าใจผิด” หนังสือธรรมะสมัยใหม่ที่จะช่วยเปิดกะโหลกให้รู้ว่า ชาวพุทธยังมีความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาอีกมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ บางเรื่องอาจขัดแย้งกับสิ่งที่เคยเชื่อมาทั้งชีวิต บางเรื่องเราอาจยังเข้าใจไม่ถูกต้องนัก และบางเรื่องก็อาจไม่เคยรู้มาก่อนว่าศาสดาสอนไว้
สารบัญ
01. ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งความเชื่อ
02. ศาสนาพุทธเน้นสอนให้เราทำความดี
03. ศาสนาพุทธสอนให้กราบไหว้บูชา
04. พระพุทธรูปเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า
05. พระที่เราเห็นทั่วไปคือหนึ่งในพระรัตนตรัย
06. พระไตรปิฎกเชื่อถือได้ทั้งหมด
07. การศึกษาพระไตรปิฎกเป็นเรื่องของพระ
08. พิธีกรรมเป็นส่วนหนึ่งของศาสนาพุทธ
09. พุทธศาสตร์กับไสยศาสตร์ไปด้วยกันได้
10. สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีอำนาจดลบันดาลได้จริง
11. การบนบานศาลกล่าวช่วยให้สมหวังได้
12. วัตถุมงคลเป็นความเชื่อในพุทธศาสนา
13. ศาสนาพุทธสอนเรื่องฤกษ์ยาม
14. นับถือเทพศาสนาอื่นไม่ผิดหลักพุทธ
15. ผู้ชายอายุครบบวชก็ต้องบวช
16. หากไม่บวชก็ไม่อาจศึกษาปฏิบัติธรรม
17. แม่ชีคือหนึ่งในสมณเพศ
18. พุทธฝ่ายเถรวาทห้ามไม่ให้บวชภิกษุณี
19. พระพุทธเจ้าเปรียบมนุษย์เป็นดอกบัว 4 เหล่า
20. “ผี” ไม่มีจริงในศาสนาพุทธ
21. ทำดีเท่ากับทำบุญ
22. เราต้องสั่งสมบุญให้มากเข้าไว้
23. ไม่ว่าให้อะไรแก่คนอื่นล้วนนับว่าเป็นทานมัย
24. ทำบุญทำกับพระ ทำทานทำกับคน
25. ทำบุญต้องทำกับพระเท่านั้น
26. ทำทานกับพระดีกว่าทำกับฆราวาส
27. นิมนต์พระมาทำบุญช่วยให้เกิดสิริมงคลแก่ชีวิต
28. ทำอะไรแล้วจิตเป็นกุศลก็ย่อมได้บุญ
29. ควรเลือกทำบุญที่ได้อานิสงส์แรง
30. ยิ่งบริจาคมากยิ่งได้บุญมาก
31. การทำทานไม่ต้องสนใจฝั่งผู้รับ
32. ถวายเงินให้พระแล้วได้บุญ
33. ปล่อยสัตว์ทั้งหลายแล้วได้บุญ
34. ไถ่ชีวิตสัตว์ใหญ่ได้อานิสงส์แรง
35. ฆราวาสก็ต้องถือศีลของฆราวาสเท่านั้น
36. ถือศีลต้องไปทำที่วัด
37. คนถือศีลต้องนุ่งขาวห่มขาว
38. บวชเป็นพระแล้วได้บุญ
39. สวดมนต์แล้วได้บุญ
40. กราบไหว้บูชาพระพุทธรูปแล้วได้บุญ
41. กราบไหว้เทพต่างศาสนาแล้วได้บุญ
42. ให้เงินขอทานแล้วได้บุญ
43. ไปสอยดาว-ล้วงไหตามงานวัดแล้วได้บุญ
44. ช่วยซื้อลอตเตอรี่จากคนพิการแล้วได้บุญ
45. ชวนคนอื่นมาบริจาคเงินก็ได้บุญ
46. ทำบุญกับพระในบ้านดีที่สุด
47. ทำบุญเอาหน้าไม่ใช่เรื่องผิด
48. เราทำบุญได้ด้วยทาน ศีล ภาวนาเท่านั้น
49. กุศลผลบุญส่งต่อกันได้
50. ศาสนาพุทธสอนให้กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล
51. เราตัดสินได้เองว่าทำอย่างไรเรียก “ชั่ว”
52. เราทำชั่วได้เฉพาะการกระทำทางกาย
53. ทำผิดกฎหมายเท่ากับทำชั่ว
54. ไม่จงรักภักดีต่อสถาบันถือเป็นความชั่ว
55. ไม่รักชาติบ้านเมืองถือเป็นความชั่ว
56. ไม่นับถือศาสนาถือเป็นความชั่ว
57. รักร่วมเพศถือเป็นความชั่ว
58. ร้องเรียนเรื่องพระสงฆ์ถือเป็นความชั่ว
59. หลบเลี่ยงภาษีไม่ใช่ความชั่ว
60. ถ้าไม่ใช่ความชั่วและไม่ผิดกฎหมายก็ทำได้หมด
61. ศาสนาพุทธจำเป็นต้องมีวัด
62. พระพุทธเจ้าก็มีวัด
63. วัดยิ่งใหญ่โตหรูหรายิ่งดีต่อพุทธศาสนา
64. ทำบุญที่วัดไหนก็ได้บุญเหมือนกัน
65. อยากทำบุญต้องไปทำที่วัด
66. เราควรไปวัดเพื่อทำบุญทำทาน
67. วัดสร้างเทวรูปนอกศาสนาไม่ผิดคำสอน
68. ตระเวนไหว้พระ 7 วัดได้อานิสงส์แรง
69. คนที่ชอบเข้าวัดทำบุญคือคนดี
70. วัดควรจัดงานมหรสพเพื่อหาเงิน
71. พระยิ่งมียศสูงยิ่งบรรลุธรรมชั้นสูง
72. พระยิ่งเรียนปริยัติธรรมสูงยิ่งบรรลุธรรมชั้นสูง
73. หน้าที่หลักของพระคือรับกิจนิมนต์
74. พระควรได้รับสิทธิพิเศษในสังคม
75. พระมีหน้าที่บำเพ็ญประโยชน์ให้สังคม
76. พระก็คนจึงมีกิเลสกันได้
77. พระบวชใหม่มีศีลมาก
78. เราทุกคนล้วนติดหนี้สงฆ์จึงต้องทำบุญเพื่อชำระ
79. พระกราบไหว้ฆราวาสเป็นความผิดร้ายแรง
80. กะเทยบางประเภทบวชเป็นพระได้
81. พระทำออรัลเซ็กซ์ไม่ปาราชิก
82. พระประกาศว่าบรรลุธรรมไม่ปาราชิก
83. พระไม่แตะต้องตัวผู้หญิงก็ไม่อาบัติ
84. พระแตะต้องตัวผู้หญิงผิดทุกกรณี
85. พระรับเงินรับทองได้ไม่ผิดศีล
86. พระรับเงินออนไลน์ไม่ผิดศีล
87. พระซื้อของไม่ผิดศีล
88. พระขายของไม่ผิดศีล
89. พระบริจาคเงินเป็นเรื่องน่ายกย่อง
90. ศีลของพระมีเพียง 227 ข้อ
91. พระกระทำเดรัจฉานวิชาได้หากญาติโยมขอ
92. พระรดน้ำมนต์ไม่ผิดศีล
93. พระดูฤกษ์ดูยามไม่ผิดศีล
94. พระซื้อหวยไม่ผิดศีล
95. พระช่วยรักษาคนป่วยไม่ผิดศีล
96. พระทำตัวเป็นหมอดูไม่ผิดศีล
97. พระปลุกเสกเครื่องรางไม่ผิดศีล
98. พระเจิมรถเจิมบ้านไม่ผิดศีล
99. พระเล่นโซเชียลมีเดียไม่ผิดศีล
คำนำสำนักพิมพ์
“99 เรื่องพุทธ ที่เราเข้าใจผิด” เล่มนี้ เป็นหนังสือธรรมะเล่มเล็ก ๆ อีกเล่มที่สำนักพิมพ์เราตั้งใจผลิตและจัดพิมพ์ออกไปด้วยความภาคภูมิใจ เจตนารมณ์ของผู้เขียนกับของสำนักพิมพ์ไม่แตกต่างกัน เราหวังเห็นพระพุทธศาสนาไม่แปดเปื้อนไปกว่านี้ จึงอยากอธิบายและแก้ไขความเชื่อหรือความเข้าใจผิดต่าง ๆ เกี่ยวกับคำสอนของพระศาสดาให้กระจ่างแจ้งขึ้น
ในหนังสือเล่มนี้ ผู้เขียนได้รวบรวมความคิดหรือความเชื่อต่าง ๆ ในทางพระพุทธศาสนา ที่เราอาจเคยเข้าใจว่าถูกต้องตรงตามคำสอนของพระศาสดา แต่เอาเข้าจริงแล้วกลับไม่ใช่อย่างที่คิด บางเรื่องอ่านแล้วก็อึ้งและเกิดมุมมองใหม่ ๆ ขึ้นมา ตัวอย่างเช่น ผู้เขียนบอกว่า “ศาสนาพุทธเน้นสอนให้เราทำความดี” หรือ “พระไตรปิฎกเชื่อถือได้ทั้งหมด” เป็นความเข้าใจที่ผิด อ่านแล้วเรียกว่าเปิดกะโหลกชาวพุทธได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ประโยคที่เราอยากพูดหลังจากอ่านต้นฉบับหนังสือธรรมะเล่มนี้จบลงก็คือ หากในชีวิตนี้คุณมีโอกาสอ่านหนังสือธรรมะได้แค่เพียงเล่มเดียว…
เราอยากให้คุณอ่านหนังสือเล่มนี้จริง ๆ!
คำนำผู้เขียน
ตั้งแต่ครั้งแรกที่ตัดสินใจจะลองเขียนหนังสือแนวธรรมะเผยแพร่ ผู้เขียนเตรียมตัวเตรียมใจไว้แต่ต้นแล้วว่า คงมีกระแสตอบกลับทั้งในมุมบวกและมุมลบ โดยเฉพาะมุมลบน่าจะมีอยู่ไม่น้อยทีเดียว ด้วยว่าเนื้อหาหนังสือที่ผู้เขียนเขียนออกไปค่อนข้างขัดแย้งกับความเชื่อของชาวพุทธส่วนมาก บางประเด็นก็อาจทำให้บางคนรับไม่ได้ รวมถึงพระสงฆ์บางกลุ่มด้วย บางคนก็คิดอคติไปว่าผู้เขียนไม่หวังดีต่อพระศาสนา ทั้งที่ผู้เขียนพยายามเขียนเนื้อหาให้ตรงตามคำสอนในพระไตรปิฎกมากที่สุด
คอมเมนต์ส่วนใหญ่จากนักอ่านจะส่งผ่านมาทางสำนักพิมพ์ และสำนักพิมพ์ก็เลือกส่งต่อข้อความบางส่วนที่เห็นว่าควรรับรู้มาถึงผู้เขียน บางครั้งเพื่อให้ช่วยตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อความในพระไตรปิฎก หรือบางครั้งก็เพื่อไถ่ถามว่าต้องการอธิบายอะไรเพิ่มเติมกับผู้อ่านคนนั้น ๆ หรือไม่
มีผู้อ่านบางคนตั้งข้อสงสัยว่า การที่ผู้เขียนนำธรรมะของพระพุทธเจ้ามาเขียนเป็นหนังสือออกวางขายเช่นนี้ ไม่เข้าข่ายเป็นการนำธรรมะมาใช้หากินหรืออย่างไร เพราะแม้แต่พระพุทธองค์เอง ก็ยังทรงเผยแผ่ศาสนาโดยไม่หวังผลตอบแทนใด
ประเด็นนี้ผู้เขียนขออนุญาตตอบไว้ ณ ที่นี้อีกครั้งว่า หนังสือทุกเล่มที่ผู้เขียนเคยเขียน เป็นหนังสือที่เขียนเนื้อหาขึ้นมาใหม่ทั้งหมดทุกตัวอักษรจากความรู้และสติปัญญาของตัวเอง ไม่ใช่คัดลอกธรรมะที่พระพุทธเจ้าสอนหรือข้อมูลจากแหล่งไหนมาใส่ลงในหนังสือกันตรง ๆ งานเขียนเป็นงานที่ต้องใช้ความคิด ต้องสืบค้นข้อมูลอย่างหนักจากพระไตรปิฎกและอีกหลาย ๆ แหล่ง บางครั้งกว่าจะเขียนจบแต่ละเล่มใช้เวลานานแรมปี และงานเขียนก็เป็นงานสร้างสรรค์ที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย หนังสือของผู้เขียนจะมีส่วนที่ไม่ได้เขียนขึ้นเองก็เพียงจุดที่จำเป็นต้องยกเนื้อความจากพระไตรปิฎกมาอ้างอิงเท่านั้น เพื่อเป็นหลักฐานว่าผู้เขียนกล่าวตามพระไตรปิฎก ไม่ได้ยกเมฆขึ้นมาลอย ๆ อีกอย่างผู้อ่านจะได้อ่านเนื้อหาหนังสือเข้าใจแจ่มชัดได้ในทันที ไม่ต้องเสียเวลาไปค้นหาข้อมูลในไตรปิฎกอีกให้ลำบากยากเย็น
เป้าหมายหลักในการเขียนหนังสือธรรมะของผู้เขียนไม่ใช่เพื่อหาเลี้ยงชีพ (ผู้เขียนรับค่าตอบแทนจากสำนักพิมพ์แค่หลักพัน) แต่เพื่อช่วยเผยแผ่ธรรมะของพระพุทธองค์ในอีกช่องทางหนึ่ง ด้วยการกลั่นกรองความรู้ของตัวเองและเนื้อความในพระไตรปิฎกออกมาเป็นตัวหนังสือที่อ่านเข้าใจได้ง่าย เข้าถึงคนทั่วไปได้มากขึ้น
และด้วยเหตุที่ผู้เขียนไม่ใช่สมณเพศ ยังต้องหาเลี้ยงชีพอยู่ อีกทั้งการจัดพิมพ์ออกเป็นหนังสือของทางฟากสำนักพิมพ์มีต้นทุนสูง หนังสือธรรมะที่ผู้เขียนเขียนขึ้นจึงไม่อยู่ในฐานะที่จะพิมพ์แจกฟรีได้ (เท่าที่ทราบ สำนักพิมพ์ก็ตั้งราคาหนังสือให้ถูกที่สุดเท่าที่จะพออยู่รอดได้ หาใช่มุ่งหวังค้ากำไรจนร่ำรวย) ผิดกับการสอนธรรมะด้วยปากเปล่าของพระสงฆ์ ซึ่งนั่นเป็นหน้าที่หลักของภิกษุอยู่แล้ว และการเทศน์สอนเช่นนั้นก็ไม่มีต้นทุนใด ๆ
แต่ถึงแม้ภิกษุจะมีหน้าที่เผยแผ่พระธรรมอยู่แล้ว ในประเทศนี้ก็ยังมีพระสงฆ์อีกมากมายที่เขียนหนังสือออกขาย (ส่วนจะได้ค่าตอบแทนจากสำนักพิมพ์มากน้อยแค่ไหนหรือในรูปแบบไหน ผู้เขียนไม่ทราบได้) โดยเฉพาะพระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับประเทศ ก็เห็นมีชื่อปรากฏบนหน้าปกหนังสือในฐานะผู้เขียนเป็นสิบ ๆ ร้อย ๆ เล่ม แต่ละเล่มจัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ใหญ่ ๆ แทบทั้งนั้น กรณีนั้นไม่น่าตั้งคำถามมากกว่าหรือว่า เป็นการนำธรรมะมาใช้หากินหรือไม่ ทั้งที่สมณเพศไม่ต้องทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยตัวเองด้วยซ้ำ
หรือแม้แต่รูปเล่มพระไตรปิฎกซึ่งเป็นตัวพระธรรมแท้ ๆ ทั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์ ไม่ได้มีการคิดสร้างสรรค์ส่วนใดขึ้นมาใหม่ ทุกฉบับที่พิมพ์ออกมาก็จัดพิมพ์เพื่อวางจำหน่ายด้วยกันทั้งนั้น หากซื้อครบทุกเล่มต้องใช้เงินถึงหลักหมื่น ไม่เห็นหน่วยงานไหนจะจัดพิมพ์พระไตรปิฎกเพื่อแจกฟรีแก่ประชาชน
ด้วยเหตุผลที่ว่ามาทั้งหมด ผู้เขียนจึงคิดว่าตัวเองน่าจะพ้นจากข้อกล่าวหาเอาธรรมะมาใช้หากินได้
นับจากหนังสือธรรมะเล่มก่อนจนมาถึงเล่มนี้ ผู้เขียนใช้เวลายาวนานกว่า 1 ปี หนังสือเล่มนี้เป็นอีกเล่มที่ผู้เขียนตั้งใจเขียนด้วยปรารถนาจะเห็นพระพุทธศาสนาไม่มัวหมองลงไปกว่านี้ อย่างไรก็ตามหากมีข้อท้วงติงหรือข้อเสนอแนะต่าง ๆ ก็สามารถส่งอีเมลมาถึงผู้เขียนโดยตรงได้ที่…
panyawutowriter@gmail.com
หากเป็นความคิดเห็นที่กอปรด้วยปัญญา ผู้เขียนก็ยินดีรับฟัง และยินดีจะแก้ไขเนื้อหาหนังสือหากมีส่วนไหนตกหล่นผิดพลาดไปเพราะภูมิธรรมที่ยังไม่มากพอ
ตัวอย่างหนังสือ